ความเป็นมาของชื่อ France

คำว่า France มาจากคำในภาษาละติน คือ Francia สามารถแปลออกมาตามตรงได้ว่า ดินแดนของชาว Frank หรือ Frankland โดยมีหลายทฤษฎีอันใช้ในการค้นหาถึงที่มาของคำว่า Franks และหนึ่งในทฤษฎีชิ้นสำคัญคือ มาจากคำใน ภาษา Proto-Germanic นั่นก็คือคำว่า Frankon แปลว่า หลาว , หอก , ทวน ซึ่งเป็นอาวุธประจำตัวของพวก Frank เป็นที่รู้จักกันดีภายใต้ชื่อ Francisca ซึ่งเป็นอีกทฤษฎีหนึ่งซึ่งอ้างอิงตามหลักนิรุกติศาสตร์ของภาษาเยอรมันโบราณ คำว่า Franks แปลว่าอิสระ โดยตรงกันข้ามกับคำว่าทาส คำนี้ยังคงปรากฏอยู่ในภาษาฝรั่งเศส ณ ปัจจุบันในรูป Franc ซึ่งเป็นชื่อเรียกสกุลเงินของประเทศฝรั่งเศส จนกระทั่งได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นสกุลเงินยูโรในปี ค.ศ.2002 จวบจนถึงปัจจุบันอีกทั้งประเทศเยอรมนียังคงเรียกประเทศฝรั่งเศสว่า Frankreich อีกด้วย

ประวัติประเทศฝรั่งเศสฉบับย่อ

ชาวฝรั่งเศสแต่เดิมได้มีการสืบเชื้อสายมาจากพวกมองโกล ในศตวรรษที่ 1 หลังจากนั้นก็ตกมาอยู่ภายใต้การปกครองของพวก France ซึ่งปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ โดยมีบันทึกว่าเริ่มการปกครองในรูปแบบนี้เริ่มขึ้น ในศตวรรษที่ 5 เมื่อพระเจ้า Charlemagne ตั้งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ในปี ค.ศ. 843 ซึ่งมีอาณาเขตครอบคลุมทั้งฝรั่งเศสและเยอรมนี

ต่อมาราชสำนักของฝรั่งเศส ทะยานขึ้นถึงขีดสุดในรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ในยุคนี้ฝรั่งเศสได้กลายเป็นประเทศมีประชากรมากที่สุดในยุโรป รวมทั้งเต็มไปด้วย อำนาจทางการเมือง , เศรษฐกิจ , ศิลปะ , วัฒนธรรม อันส่งผลต่อยุโรปเป็นอย่างมาก

ฝรั่งเศสถูกปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ จนมาถึงสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ในปีค.ศ. 1792 แล้วมีการปรับเปลี่ยนมาใช้ระบอบสาธารณรัฐ แต่ต่อมา Napoleon Bonaparte ก็ได้ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิ พร้อมจัดกำลังทหารไปรุกรานประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรป ต่อมาเมื่อ Louis Napoleon พบกับความพ่ายแพ้ ฝรั่งเศสจึงกลับมาใช้ระบบสาธารณรัฐอีกครั้ง และเรียกว่ายุคสาธารณรัฐที่ 2  แต่ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะ Louis Napoleon ที่ 3 หลานลุงของ Napoleon ได้ทำการยึดประเทศและตั้งจักรวรรดิขึ้นมาอีกครั้ง

ตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษ 17 จวบจนทศวรรษ 60 เป็นยุคของการล่าอาณานิคม จักรวรรดิฝรั่งเศสเรืองอำนาจสามารถยึดพื้นที่มาได้จนมีขนาดใหญ่มาก โดยช่วงขนาดใหญ่ที่สุด คือช่วงยุคทศวรรษ 20 – 30 ซึ่งมีจำนวนกว่า 12,898,000 ตารางกิโลเมตร จัดเป็นจักรวรรดิอันดับ 2 ของโลก รองลงมาจากจักรวรรดิอังกฤษ

แต่ต่อมาฝรั่งเศสก็ถึงคราวตกต่ำ เพราะได้รับความบอบช้ำอย่างหนักจากสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง ปัจจุบันมีการใช้การปกครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งมีทั้งประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรีผสมกัน อีกทั้งฝรั่งเศสกับเยอรมนี ต่างเป็นผู้นำของการรวมตัวตั้งประชาคมยุโรป ซึ่งมีการพัฒนาจนกลายมาเป็นสหภาพยุโรปในปัจจุบัน