เป็นเวลานานมากว่าหลายศตวรรษที่ปารีสทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการสร้างสรรค์ที่เป็นแรงบันดาลใจของคนทั้งโลก สร้างแรงดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวโดยศิลปะและปติมากรรมสุดงดงามที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ อย่างเช่นใน พิพิธภัณฑ์รวม “Musée d’Orsay “ที่มีชื่อเสียงของประเทศฝรั่งเศส เนื่องการความเฟื่องฟูทางศิลปะของฝรั่งเศสตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 ทำให้ทาง Musée d’Orsay มีผลงานชิ้นเอกที่มากมายเก็บรักษาไว้อยู่ที่นี่ นอกจากคอลเล็กชันที่โด่งดังของมันแล้ว พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักในด้านประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม เนื่องจากพื้นที่แต่เดิมแห่งนี้เคยเปิดดำเนินการในฐานะสถานีรถไฟมาก่อน ด้วยเหตุนี้เองอาคารจึงถูกพิจารณาว่าเป็น“ งานศิลปะชิ้นแรกใน Musee d’Orsay
ในปี 1900 บริษัท รถไฟ Orleans ได้เปลี่ยนที่ดินบนฝั่งแม่น้ำแซนในกรุงปารีสเป็น Gare d’Orsay อาคารที่สร้างขึ้นภายยุคสมัยของนโปเลียนจนถูกทำลายในปี ค.ศ. 1871 โดยประชาคมปารีสรัฐบาลเห็นว่าตำแหน่งนี้ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการสร้างสถานีรถไฟที่เป็นศูนย์กลางของการเดินของเมือง จึงได้มอบหมายให้สถาปนิกฝีมือดีออกแบบตัวอาคารทันที ได้แก่ ÉmileBénard, Victor Laloux และ Lucien Magne ที่นี่จัดว่าเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยในเท่าที่จะมีได้ในยุคสมัยนั้น โดยในงานเปิดตัวปี 1900 ถือเป็นวันที่จัดงาน Paris Exposition ถือเป็นงานแสดงสินค้าของโลกจัดขึ้นเพื่อโชว์นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ที่เปลี่ยนแปลงโลกในช่วงยุคเปลี่ยนศตวรรษ
ในปี 1977 รัฐบาลได้ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนพื้นที่ให้กลายเป็นเป็นพิพิธภัณฑ์ บริษัทผู้โชคดีที่ได้รับหน้าที่ก่อสร้างคือ ACT Architecture พวกเขาได้บอกว่าจะเคารพสถาปัตยกรรมของ Laloux ในขณะที่ตีความมันใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยของเรา โดยจะเน้นรักษาในส่วนที่มีความสำคัญมากสุดเช่น หลังคากระจก ห้องโถงใหญ่ นาฬิกาโบราณ ในที่สุดพิพิธภัณฑ์ได้เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 1986 หลังจากที่พิพิธภัณฑ์ได้เปิดมานั้นก็ได้สร้างคอลเล็กชันศิลปะที่มีชื่อเสียงมากมายนำมาไว้แสดงโชว์ ซึ่งครอบคลุมการวาดภาพประติมากรรมภาพถ่ายและศิลปะการตกแต่ง พื้นที่จัดแสดงถูกกระจายอย่างสร้างสรรค์รอบๆพิพิธภัณฑ์ที่ถูกแบ่งออกเป็นตามชั้น
ศิลปะที่ผลิตระหว่าง 1848 ถึงต้นยุค 1870 สามารถพบได้ที่ชั้นล่างสุด คอลเล็กชันประติมากรรมส่วนใหญ่ของพิพิธภัณฑ์จัดแสดงในโถงกลาง ในขณะที่ศิลปะก่อนอิมเพรสชั่นนิสต์ รวมถึงภาพวาดของกุสตาฟกูร์เบต์ จะถูกจัดแสดงอยู่ในแกลเลอรี่ใกล้เคียง ในชั้นต่อไปคือภาพวาดสีพาสเทลจากยุคกลางและยุโรปเหนืออังกฤษ ชั้นสุดท้ายคือชั้นจัดแสดงผลงานโดยศิลปินโพสต์อิมเพรสชั่นนิสต์ Paul Gauguin, Vincent Van Gogh, Henri de Toulouse-Lautrec และ Paul Seurat ชั้นนี้ยังมีระเบียงที่ตกแต่งด้วยชิ้นงานของ Auguste Rodin และช่างแกะสลักอื่นๆ
